เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ กรุณาคลิก ยอมรับ
เพื่อดำเนินการ หรือ อ่านรายละเอียดสำหรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้
เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ กรุณาคลิก ยอมรับ
เพื่อดำเนินการ หรือ อ่านรายละเอียดสำหรับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
SKU ต่างกับ Serial Number อย่างไร
📍📍 SKU (Stock Keeping Unit) และ Serial Number เป็นสององค์ประกอบที่ใช้ในการระบุ และติดตามสินค้า อย่างไรก็ตาม SKU กับ Serial Number มีความแตกต่างกันในลักษณะ และการใช้งานดังนี้
SKU (Stock Keeping Unit)
คำอธิบาย : SKU เป็นรหัสที่ใช้ระบุ และจัดเก็บข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าในสต็อกหรือคลังสินค้า รหัสนี้สามารถประกอบไปด้วยตัวอักษร ตัวเลข หรือสัญลักษณ์เฉพาะที่ระบุประเภทสินค้า คุณสมบัติ ขนาด สี ราคา และข้อมูลอื่นๆ เพื่อทำให้ง่ายต่อการจัดการสต็อก และการติดตามสินค้า
การใช้งาน : SKU ใช้ในการจัดการสต็อก การบริหารจัดการสินค้า การติดตามยอดขาย การสั่งซื้อ และการวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจ ส่วนใหญ่ SKU จะมีลักษณะเป็นรหัสที่ใช้ภายในองค์กรเท่านั้น
Serial Number (หมายเลขซีเรียล) มีบทบาทสำคัญในการติดตาม และระบุสินค้าแต่ละชิ้น โดยส่วนใหญ่ใช้ในสินค้าที่มีความสำคัญในการตรวจสอบความถูกต้อง การรับประกัน การแจ้งเตือนปัญหา หรือการเรียกคืนสินค้า นอกจากนี้ยังช่วยในการตรวจสอบข้อมูล และประวัติของสินค้า ดังนั้นสินค้าแต่ละชิ้นจะได้รับการระบุด้วยหมายเลขซีเรียลที่แตกต่างกัน
การใช้งานของ Serial Number สามารถมีองค์ประกอบเพิ่มเติมได้ดังนี้
การตรวจสอบและระบุสินค้า : Serial Number ช่วยให้ง่ายต่อการตรวจสอบและระบุสินค้าแต่ละชิ้น เช่น ในการตรวจสอบว่าสินค้าที่ถูกส่งมาตรงกับสินค้าที่สั่งซื้อหรือไม่
การรับประกันและการบริการหลังการขาย : Serial Number ใช้ในการลงทะเบียนสินค้าเพื่อเป็นหลักฐานในการรับประกัน และในกรณีที่มีปัญหาหรืออุบัติเหตุ Serial Number ช่วยในการตรวจสอบสถานะการรับประกัน และบริการหลังการขาย
การติดตามสินค้าและการเรียกคืน : ในกรณีที่พบปัญหาหรือความผิดปกติในสินค้า Serial Number ช่วยในการติดตามและระบุสินค้าที่เป็นปัญหาเพื่อดำเนินการเรียกคืนหรือการแก้ไขปัญหา
Serial Number ยังมีบทบาทสำคัญในการบันทึกข้อมูลและการวิเคราะห์ธุรกิจ เช่น
การติดตามประวัติและการบันทึกข้อมูล : Serial Number ช่วยในการติดตามประวัติการจำหน่าย และการขายของสินค้าแต่ละชิ้น ช่วยในการระบุว่าสินค้าได้ถูกขายไปแล้วหรือยัง และระบุข้อมูลอื่นๆ เช่น วันที่ผลิต วันหมดอายุ หรือแหล่งผลิต
การวิเคราะห์และการตรวจสอบความถูกต้อง : Serial Number เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบความถูกต้องของสินค้า เช่น ในกรณีของผลิตภัณฑ์ที่มี SKU เดียวกันพบปัญหา เราสามารถตรวจสอบว่าปัญหานั้นเกิดล็อตใด และมี Serial Number ใดบ้าง
การตรวจสอบการส่งคืนสินค้า : ในกรณีที่มีการส่งคืนสินค้าหรือการเปลี่ยนสินค้า การตรวจสอบ Serial Number ช่วยในการตรวจสอบว่าสินค้าที่ถูกส่งคืนมาเป็นสินค้าเดิมที่เคยจัดส่งหรือไม่
📍 โดยรวมแล้ว, SKU และ Serial Number เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการระบุและติดตามสินค้า แต่มีบทบาทการใช้งานที่แตกต่างกัน SKU ใช้ในการจัดการสต็อกและการบริหารจัดการสินค้าในขั้นตอนการดูแลสต็อก ในขณะที่ Serial Number ใช้ในการระบุและติดตามสินค้าแต่ละชิ้น และสามารถ ใช้งานเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของสินค้า เช่น ในกรณีที่ต้องการตรวจสอบสินค้าที่เป็นของลักษณะเดียวกันว่ามีความเหมือนกันหรือไม่ หรือในการตรวจสอบการรับประกันสินค้าโดยระบุหมายเลขซีเรียลเพื่อตรวจสอบว่าสินค้ายังอยู่ในช่วงเวลาการรับประกันหรือไม่ เป็นต้น
จากข้อมูลข้างต้นเห็นได้ว่าสินค้าทุกตัวควรมี SKU เพื่อใช้ในการบริหารจัดการสต็อกสินค้า ส่วน Serial Number ขึ้นอยู่กับผู้ประกอบการว่าสินค้าที่จำหน่ายนั้นควรมีหรือไม่มี Serial Number ซึ่งสินค้าบางประเภทอาจไม่มีความจำเป็น